
<- Back
แกะโมเดล KKP: ธนาคารที่ไม่ได้มีดีแค่ 'สินเชื่อรถยนต์’
7
mins read /
Jul 28, 2025

เมื่อพูดถึงธนาคารเกียรตินาคินภัทร หรือ KKP ภาพแรกที่หลายคนนึกถึงคือ "สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์" แต่เคยสงสัยไหมว่า อะไรทำให้ KKP ยืนหยัดอย่างโดดเด่นและแตกต่างจากธนาคารยักษ์ใหญ่ในไทย? คำตอบไม่ได้อยู่ที่ธุรกิจธนาคารเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ที่ "เครื่องยนต์" อีกตัวที่ทรงพลังไม่แพ้กัน นั่นคือธุรกิจด้านตลาดทุนภายใต้แบรนด์ "ภัทร" ที่เป็นตำนาน
แกะโมเดล KKP: ธนาคารสองเครื่องยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วย 'สินเชื่อ' และ 'ตลาดทุน'
ธนาคารเกียรตินาคินภัทร (KKP) นำเสนอโมเดลธุรกิจที่น่าสนใจและแตกต่างจากธนาคารพาณิชย์ส่วนใหญ่ในประเทศไทย โดยดำเนินงานในรูปแบบกลุ่มธุรกิจการเงินที่มี 2 แกนหลักที่ส่งเสริมซึ่งกันและกันอย่างชัดเจน
เครื่องยนต์ที่ 1: ธุรกิจธนาคารพาณิชย์ (Commercial Banking)
แกนหลักแรกคือธุรกิจธนาคารพาณิชย์ ซึ่ง KKP มีความเชี่ยวชาญเป็นพิเศษใน สินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์ (Hire Purchase) และสินเชื่อเพื่อรายย่อยอื่นๆ รายได้หลักจากส่วนนี้คือ รายได้ดอกเบี้ยสุทธิ (Net Interest Income) ซึ่งเกิดจากส่วนต่างระหว่างดอกเบี้ยที่ได้รับจากพอร์ตสินเชื่อ กับดอกเบี้ยที่ต้องจ่ายให้แก่ผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้ ถือเป็นเครื่องยนต์ที่สร้างรายได้สม่ำเสมอและเป็นฐานที่มั่นคงให้กับกลุ่มธุรกิจ
เครื่องยนต์ที่ 2: ธุรกิจตลาดทุน (Capital Markets)
แกนหลักที่สองคือธุรกิจตลาดทุน ซึ่งดำเนินงานภายใต้แบรนด์ "ภัทร" ที่มีชื่อเสียงและได้รับการยอมรับอย่างสูงในวงการ ประกอบด้วย:
ธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ (Securities Brokerage): สร้างรายได้จากค่าคอมมิชชั่นในการซื้อขายหลักทรัพย์
วาณิชธนกิจ (Investment Banking): ให้บริการเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในการควบรวมกิจการ, การระดมทุน และการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
การบริหารความมั่งคั่ง (Wealth Management): ให้บริการบริหารพอร์ตการลงทุนแก่ลูกค้ากลุ่มผู้มีความมั่งคั่งสูง (High-Net-Worth Individuals)
รายได้จากส่วนนี้จัดเป็น รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non-interest Income) ซึ่งส่วนใหญ่มาจากค่าธรรมเนียมและค่าบริการต่างๆ ถือเป็นเครื่องยนต์ที่สร้างการเติบโตและกำไรในอัตราที่สูง โดยเฉพาะในช่วงที่สภาวะตลาดทุนเอื้ออำนวย
ความได้เปรียบเชิงแข่งขัน: พลังแห่ง Synergy
จุดแข็งและ "คูเมือง" ที่สำคัญที่สุดของ KKP คือการผสานพลัง (Synergy) ระหว่างสองธุรกิจนี้ KKP สามารถให้บริการลูกค้าได้อย่างครบวงจร ตั้งแต่ลูกค้ารายย่อยที่ต้องการสินเชื่อรถยนต์ ไปจนถึงลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการที่ปรึกษาทางการเงิน และลูกค้ามหาเศรษฐีที่ต้องการผู้จัดการความมั่งคั่ง การมีโมเดลธุรกิจที่ครอบคลุมเช่นนี้ทำให้หาคู่แข่งโดยตรงได้ยาก
การวิเคราะห์จุดแข็งและจุดอ่อน (SWOT Analysis)
จุดแข็ง (Strengths):
โมเดลธุรกิจผสมผสานที่ไม่เหมือนใคร สร้างความหลากหลายของรายได้
เป็นผู้นำและเชี่ยวชาญในตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์
แบรนด์ "ภัทร" ที่แข็งแกร่งในธุรกิจตลาดทุน
จุดอ่อน (Weaknesses):
พอร์ตสินเชื่อกระจุกตัวอยู่กับธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ ทำให้มีความเสี่ยงสูงหากอุตสาหกรรมยานยนต์ชะลอตัว
ต้นทุนทางการเงินอาจสูงกว่าธนาคารขนาดใหญ่
เครือข่ายสาขามีน้อยกว่าคู่แข่ง
ความท้าทายและโอกาส
อุปสรรคสำคัญ คือความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัว ซึ่งจะกระทบทั้งกำลังซื้อของลูกค้ารายย่อย (กระทบธุรกิจธนาคาร) และความเชื่อมั่นในการลงทุน (กระทบธุรกิจตลาดทุน) ไปพร้อมๆ กัน
ในขณะที่ โอกาสในการเติบโต อยู่ที่การต่อยอดฐานลูกค้าความมั่งคั่งสูงเพื่อขายผลิตภัณฑ์อื่น (Cross-selling) และการรุกตลาดธนาคารดิจิทัลผ่าน "KKP Dime" เพื่อเข้าถึงคนรุ่นใหม่
โดยสรุป โมเดลของ KKP คือการสร้างความสมดุลระหว่างความมั่นคงของธุรกิจธนาคาร และการเติบโตของธุรกิจตลาดทุน ซึ่งเป็นกลยุทธ์ที่สร้างความโดดเด่น แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายในการบริหารความเสี่ยงของทั้งสองโลกที่แตกต่างกัน
ฟังเรื่องราวฉบับเต็มของเขาได้ในพอดแคสต์ได้ที่: https://youtu.be/u4ux4tjJvvY
ติดตามและเรียนรู้เพิ่มเติมกับ bnashsandbox ได้ที่:
🎓 Academy (คลังความรู้): https://www.bnashsandbox.com/learn/academy 📝 Blog (บทความและเรื่องราว): https://www.bnashsandbox.com/discover/blog
พูดคุยกับเราผ่าน LINE OA ได้ที่:
► @bnashsandbox: https://lin.ee/83N0vJY
Social Media:
► YouTube: https://www.youtube.com/@bnashsandbox
► Facebook: https://www.facebook.com/bnashsandbox
► Instagram: https://www.instagram.com/bnashsandbox
► TikTok: https://www.tiktok.com/@bnashsandbox
► X (Twitter): https://x.com/bnashsandbox
► LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/bnashsandbox