
บิล เกตส์: เรื่องราวที่ไม่มีใครรู้ของอัจฉริยะผู้เปลี่ยนโลก
6
mins read /
Jul 23, 2025

เบื้องหลังภาพอัจฉริยะผู้สร้าง Microsoft และมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ คือชายผู้ยอมรับว่าเคยตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต เรื่องราวของ บิล เกตส์ ไม่ใช่แค่ตำนานความสำเร็จของเด็กหนุ่มที่ลาออกจากฮาร์วาร์ด แต่มันคือมหากาพย์แห่งการเปลี่ยนแปลง ความขัดแย้ง และการเดินทางเพื่อค้นหาความหมายที่สองของชีวิต จาก "นักธุรกิจจอมโหด" ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกฟ้องร้องในคดีผูกขาด สู่ "นักบุญ" ผู้อุทิศทรัพย์สินเกือบทั้งหมดเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพและความยากจนของโลก อะไรคือจุดเปลี่ยนสำคัญที่หล่อหลอมบุคคลที่ซับซ้อนและทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคสมัย?
ชีวประวัติ บิล เกตส์: เรื่องราวเบื้องหลังอัจฉริยะผู้เปลี่ยนโลก
วิลเลียม เฮนรี เกตส์ ที่ 3 หรือที่เรารู้จักกันในนาม บิล เกตส์ คือบุคคลที่ชื่อของเขาแทบจะมีความหมายเดียวกับการปฏิวัติคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แต่เส้นทางชีวิตของเขาเต็มไปด้วยมิติที่ลึกซึ้งกว่าการเป็นเพียงผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft
จุดเริ่มต้นของอัจฉริยะ
บิล เกตส์ เกิดเมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 1955 ในครอบครัวที่มีฐานะดีในซีแอตเทิล พ่อเป็นทนายความผู้มีชื่อเสียง และแม่เป็นผู้บริหารระดับสูง ฉายแววความฉลาดตั้งแต่เด็ก แต่จุดเปลี่ยนสำคัญเกิดขึ้นเมื่อเขาอายุ 13 ปีที่โรงเรียน Lakeside Prep School ที่นั่น เขาได้พบกับ พอล อัลเลน ผู้ที่จะกลายเป็นคู่หูตลอดกาล และได้สัมผัสกับคอมพิวเตอร์เป็นครั้งแรก เกตส์หลงใหลในการเขียนโปรแกรมแทบจะในทันที เขาใช้เวลาว่างส่วนใหญ่ไปกับการเขียนโค้ด และสร้างโปรแกรมแรกของเขา ซึ่งก็คือเกมโอเอกซ์ (Tic-tac-toe)
เมื่ออายุเพียง 17 ปี เกตส์และอัลเลนได้ก่อตั้งกิจการแรกในชื่อ "Traf-O-Data" เพื่อสร้างเครื่องนับจำนวนจราจรโดยใช้โปรเซสเซอร์ของ Intel แม้จะไม่ใช่ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ แต่มันคือบทพิสูจน์แรกของความเป็นผู้ประกอบการที่อยู่ในตัวเขา
กำเนิด Microsoft และการตัดสินใจเปลี่ยนโลก
เกตส์เข้าศึกษาที่มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดในปี 1973 แต่จิตใจของเขายังคงวนเวียนอยู่กับโลกของคอมพิวเตอร์ เมื่อนิตยสาร Popular Electronics ฉบับเดือนมกราคม 1975 ขึ้นปก MITS Altair 8800 ซึ่งเป็นไมโครคอมพิวเตอร์เครื่องแรกของโลก เกตส์และอัลเลนมองเห็นโอกาสทองในทันที พวกเขาติดต่อ MITS และเสนอตัวที่จะพัฒนาโปรแกรมภาษา BASIC สำหรับเครื่อง Altair
หลังจากการพัฒนางานอย่างหนัก ในที่สุดพวกเขาก็ทำสำเร็จ และนั่นนำไปสู่การตัดสินใจครั้งประวัติศาสตร์ เกตส์ลาออกจากฮาร์วาร์ดในปี 1975 เพื่อก่อตั้ง "Micro-Soft" (ชื่อเดิม) กับอัลเลนที่อัลบูเคอร์คี รัฐนิวเม็กซิโก การตัดสินใจที่ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัวนี้ ได้เปลี่ยนโฉมหน้าของโลกเทคโนโลยีไปตลอดกาล
ในช่วง 5 ปีแรก เกตส์ลงมือตรวจสอบและเขียนโค้ดเกือบทุกบรรทัดด้วยตัวเอง ความทุ่มเทของเขาปรากฏชัดใน "จดหมายเปิดผนึกถึงนักเล่นอดิเรก" ในปี 1976 ที่เขาตำหนิการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อย่างเผ็ดร้อน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ทางธุรกิจที่ชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่ม
จุดเปลี่ยนที่สำคัญที่สุดมาถึงในปี 1980 เมื่อ IBM ยักษ์ใหญ่แห่งวงการคอมพิวเตอร์ในขณะนั้น ติดต่อ Microsoft ให้พัฒนาซอฟต์แวร์สำหรับ IBM PC ที่กำลังจะเปิดตัว Microsoft ได้สร้างระบบปฏิบัติการ PC DOS ขึ้นมา แต่การตัดสินใจที่เฉียบคมที่สุดของเกตส์ คือการ "ไม่โอนกรรมสิทธิ์" ในระบบปฏิบัติการให้กับ IBM เขาเชื่อว่าผู้ผลิตรายอื่นจะสร้างเครื่องที่ลอกเลียนแบบ IBM PC ขึ้นมา และนั่นจะทำให้ Microsoft สามารถขายลิขสิทธิ์ระบบปฏิบัติการให้กับทุกบริษัทได้ คำทำนายของเขากลายเป็นจริง และ Microsoft ก็ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นคนสำคัญที่สุดในอุตสาหกรรม
การเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญ: จาก CEO สู่ผู้ใจบุญ
ตลอดระยะเวลาที่เขาเป็น CEO เกตส์มีชื่อเสียงในด้านความเกรี้ยวกราดและไม่ยอมอ่อนข้อให้ใคร เขานำพา Microsoft เปิดตัว Windows ในปี 1985 เพื่อแข่งขันกับ Apple และนำบริษัทเข้าสู่ยุคทอง อย่างไรก็ตาม เขาก็ต้องเผชิญกับคดีต่อต้านการผูกขาดครั้งใหญ่จากรัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งสร้างรอยด่างพร้อยให้กับภาพลักษณ์ของเขา
แต่แล้วในปี 2006 โลกก็ได้เห็นการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ เกตส์ประกาศว่าจะค่อยๆ ลดบทบาทใน Microsoft เพื่ออุทิศเวลาให้กับมูลนิธิ Bill & Melinda Gates ที่เขาก่อตั้งร่วมกับเมลินดา ภรรยาในขณะนั้น ในปี 2000 นี่คือจุดเริ่มต้น "บทที่สอง" ของชีวิตเขา
มรดกที่ยิ่งใหญ่กว่าเทคโนโลยี
มูลนิธิบิลและเมลินดา เกตส์ ได้กลายเป็นองค์กรการกุศลที่ใหญ่ที่สุดในโลก มุ่งเน้นการแก้ปัญหาวิกฤตด้านสาธารณสุขทั่วโลก เช่น การต่อสู้กับโรคเอดส์ วัณโรค และโปลิโอ รวมถึงการพัฒนาระบบสุขาภิบาล และการสนับสนุนการศึกษา
เกตส์ยังเป็นผู้นำในการรณรงค์เรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเรียกร้องให้มีการลงทุนในพลังงานสะอาด และเป็นแกนนำของโครงการ Mission Innovation และ Breakthrough Energy เพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีพลังงานแห่งอนาคต
แม้ชีวิตส่วนตัวของเขาจะเผชิญกับความท้าทาย ทั้งการหย่าร้าง และข้อวิจารณ์จากความสัมพันธ์ในอดีตกับเจฟฟรีย์ เอปสไตน์ แต่บิล เกตส์ ยังคงมุ่งมั่นในเส้นทางการกุศล เขายอมรับอย่างเปิดเผยถึง "ความผิดพลาดที่ยิ่งใหญ่ที่สุด" ในอาชีพ คือการพ่ายแพ้ในสงครามระบบปฏิบัติการมือถือให้กับ Android ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการเรียนรู้และเติบโตของเขา
จากอัจฉริยะคอมพิวเตอร์ สู่ซีอีโอจอมโหด และปิดท้ายด้วยบทบาทนักการกุศลระดับโลก เรื่องราวของ บิล เกตส์ คือบทพิสูจน์ว่ามรดกของคนคนหนึ่งไม่ได้ถูกจำกัดอยู่แค่ความสำเร็จทางธุรกิจ แต่สามารถถูกนิยามใหม่ได้ด้วยการอุทิศตนเพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าให้กับมวลมนุษยชาติ
ฟังเรื่องราวฉบับเต็มของเขาได้ในพอดแคสต์ได้ที่: https://youtu.be/wvTwItwWYR0
ติดตามและเรียนรู้เพิ่มเติมกับ bnashsandbox ได้ที่:
🎓 Academy (คลังความรู้): https://www.bnashsandbox.com/learn/academy 📝 Blog (บทความและเรื่องราว): https://www.bnashsandbox.com/discover/blog
พูดคุยกับเราผ่าน LINE OA ได้ที่:
► @bnashsandbox: https://lin.ee/83N0vJY
Social Media:
► YouTube: https://www.youtube.com/@bnashsandbox
► Facebook: https://www.facebook.com/bnashsandbox
► Instagram: https://www.instagram.com/bnashsandbox
► TikTok: https://www.tiktok.com/@bnashsandbox
► X (Twitter): https://x.com/bnashsandbox
► LinkedIn: https://www.linkedin.com/company/bnashsandbox
เบื้องหลังภาพอัจฉริยะผู้สร้าง Microsoft และมหาเศรษฐีผู้ใจบุญ คือชายผู้ยอมรับว่าเคยตัดสินใจผิดพลาดครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต เรื่องราวของ บิล เกตส์ ไม่ใช่แค่ตำนานความสำเร็จของเด็กหนุ่มที่ลาออกจากฮาร์วาร์ด แต่มันคือมหากาพย์แห่งการเปลี่ยนแปลง ความขัดแย้ง และการเดินทางเพื่อค้นหาความหมายที่สองของชีวิต จาก "นักธุรกิจจอมโหด" ที่ครั้งหนึ่งเคยถูกฟ้องร้องในคดีผูกขาด สู่ "นักบุญ" ผู้อุทิศทรัพย์สินเกือบทั้งหมดเพื่อแก้ปัญหาสุขภาพและความยากจนของโลก อะไรคือจุดเปลี่ยนสำคัญที่หล่อหลอมบุคคลที่ซับซ้อนและทรงอิทธิพลที่สุดคนหนึ่งแห่งยุคสมัย?